ได้ตอบคำถามผู้ปกครองที่อยากทราบความเป็นมาของโครงการชื่นใจได้เรียนรู้มัธยมไปดังนี้ค่ะ
- เดิมนักเรียนจะทำชื่นใจฯ เป็นกลุ่ม บางครั้งกลุ่มเล็ก
บางครั้งทั้งห้อง มีการแสดงละคร และเน้นงานที่เป็นเิชิงสังคมเยอะ
ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่สร้างจิตสำนึกและเน้นการคิดสร้างสรรค์
แต่มีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องตามใจเพื่อนมากกว่าได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนรู้ และใช้เวลา 1 สัปดาห์สุดท้ายเร่งทำ
production กัน ตะลุยทำกัน 2-3 วันเท่านั้น
- แนวทางการพัฒนาเด็กมัธยมต้นที่มีเป้าหมาย "ท้าทายศัำกยภาพในวัยมัธยม" และให้รู้จักตนเองไปกับการฝึกทักษะการทำงาน
และทักษะการจัดการความรู้ได้ภายในเวลา 3 ปี
คือ ชั้น 7-9 จึงได้จัดปรับ วางแนวคิด วิสัยทัศน์กันใหม่ เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกการทำงานอย่างเป็นระบบ และมีคุณภาพ เน้นกระบวนการก่อนนำเสนอ
- ส่วนทักษะด้านการแสดง
การสร้างสรรค์ซึ่งได้ฝึกฝนมาช่วงที่อยู่ประถม ก็จะมีอีกหลายกิจกรรมที่มัธยมเปิดโอกาสให้ได้ทำงานกลุ่ม
และงานสร้างสรรค์ ฯลฯ
กระบวนการทำงาน
- เราใช้แนวทาง problem-based learning โดยให้นักเรียนแต่ละคนกำหนดโจทย์ของตัวเองตามความสนใจ ฝึกการตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และฝึก sensing ของตัวเอง
- นักเรียนจะเลือกคุณครูที่ปรึกษาอย่างน้อย 1 คนเป็นโค้ชเพื่อทำงานประมาณ 10 สัปดาห์
ซึ่งจะต้องมาพบกันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- คุณครูที่ปรึกษาเป็นส่วนที่มีความสำคัญกับกิจกรรมนี้อย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เพียงคนที่นักเรียนอยากได้มาเป็นเพื่อนคู่คิด แต่ต้องเป็นคนที่มีความสนใจหรือความรู้ในเรื่องนั้นเพียงพอที่จะให้คำแนะนำ หรือตั้งคำถามได้ ดังนั้น บางโครงงานฯ อาจมีคุณครูมากกว่า 1 คน
- ในส่วนกระบวนการ "หาคำตอบ" มีได้หลากหลายวิธี เท่าที่เราเห็นบ่อยๆ คือ การค้นคว้า (ซึ่งบางคนก็ใช้การสัมภาษณ์) การทดลอง
ทำสำรวจ หรือผสมกัน
เมื่อได้ผลก็มาคิดวิเคราะห์ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
โดยมีคุณครูเป็นโค้ชให้ค่ะ
- คุณครูให้นักเรียนใช้ตารางบันทึกการทำงานเป็นรายสัปดาห์ กับแนวการประเมินการทำงานซึ่งได้แจกให้นักเรียนไปแล้วตั้งแต่เริ่มทำงาน ซึ่งควรต้องนำมาพบครูทุกครั้ง และส่งในวันนำเสนอ
-
ส่วนเรื่องการประเมินผล นักเรียนกับครูจะตกลงกันว่า
ใครอยากเน้นเรื่องอะไรในชื่นใจฯรอบนี้
ก็จะให้คะแนนก้อนนี้มาก-น้อยก็แล้วแต่ ทั้งสองตารางนี้ ปรับขึ้นมาจากการทดลองใช้เมื่อปีที่แล้ว
แต่ก็ยังมีเรื่องต้องปรับปรุงอีก ช่วยกัน comment มาได้นะคะ
No comments:
Post a Comment