เด็กๆ ช่วยกันจัดพื้นที่ มีฝนปรอยเป็น background |
วันนี้เห็นความแตกต่างไปจากเมื่อ 3 เดือนก่อนคือ เด็กๆ อ่านสัญญาณของครูกอล์ฟได้ไม่หลุด จับจังหวะได้แม่นขึ้นมาก ฟังเสียงคนอื่นร้อง Ensemble ได้ดี ตอนที่ต้องปรบมือประกอบจังหวะก็ทำได้พร้อมเพรียง มองกันเอง และมีพลังมากขึ้น กล้าร้องด้วยเสียงที่ดังขึ้น
เป้าหมายของการเข้าวงดนตรี ไม่ใช่เพื่อให้เด็กเป็นนักร้องนักดนตรี แต่นี่เป็นเครื่องมือที่นุ่มนวลที่สุดในการฝึกนิสัยที่สำคัญมากสำหรับการเติบโตต่อไปในอนาคต
เมื่อปีที่แล้ว เด็กที่มาขึ้นชั้น 7 มีชื่อเสียงโด่งดังในความเป็นตัวของตัวเอง ไม่นิ่งมากๆ แถมยังขี้อ้อน ... "ไม่เอาได้ไหม ไม่ไหวแล้ว ไม่สบาย" แต่เมื่อเข้าวงคอรัสได้ไม่นาน ก็เริ่มนิ่งขึ้น กำกับตัวเองได้มากขึ้น ทำงานกับคนอื่นเป็นเพราะรู้จักที่จะฟัง
จับจังหวะแน่นเปรี๊ยะ ไม่มีหลุดเลย ดูแฟนตัวน้อยๆ จากฝั่งประถม |
ในชีิวิตจริง เราไม่มีทางเลือกมากมายเสมอไป บางครั้ง เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรับภารกิจที่ไม่ชอบ ไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องทำ ทางเลือกจึงเหลือเพียงว่า จะทำมันอย่างมีความทุกข์ ความคับแค้นใจ ความเก็บกด หรือจะหาความสุขจากสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำ สามารถมองหาด้านดี ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือมองมันเป็นความท้าทาย แล้วสนุกกับโจทย์ของตัวเอง
จะทำอย่างไร เมื่อลูกพากเพียรทำงานอย่างหนักเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้ววันหนึ่งบอกว่า ขอย้ายมหาวิทยาลัยเพราะไม่ชอบรับน้องหนัก ปีต่อมาก็ย้ายออกจากมหาวิทยาลัยที่สองเพราะไม่ชอบที่ต้องเรียนหนัก อีกปีหนึ่งก็ย้ายออกจากมหาวิทยาลัยที่สาม เพราะห้องแลปไม่ดี ถัดมาอีกปีขอย้ายไปเรียนเมืองนอกเพราะเมืองไทยอากาศร้อน ... หรือลูกเราจะเป็นเจ้าของกิจการที่บอกลูกค้าว่า ขอโทษทีนะ วันนี้ยังไม่ส่งงานตามนัด เพราะไม่อยากทำอ้ะ เอาไว้มีอารมณ์อยากทำเมื่อไหร่จะรีบส่งงานให้
คุณสมบัติหนึ่งของเด็กเพลินฯ ที่ต้องช่วยกันสร้างคือ เมื่อได้รับภาระหน้าที่ที่แม้ไม่อยากทำ เด็กของเราจะมองหาด้านดีของงานนี้ได้ ถ้าไม่ฝึกวันนี้กับเครื่องมือที่นุ่มนวลที่สุดคือ ดนตรี ในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด คือโรงเรียนเพลินฯ ... แล้วจะรอไปฝึกอย่างเจ็บปวดเมื่อไหร่ กับใคร?! ขอบคุณทั้งคุณครูและคุณพ่อคุณแม่นักร้องเสียงเบส และเสียงหวานทั้งหลายที่นั่งอยู่ข้างหลังเป็นกำลังสำคัญในการฝึกลูกๆ ค่ะ
No comments:
Post a Comment