Labels

9.23.2011

สวนผักคอรัส Mid Year Show

เด็กๆ ช่วยกันจัดพื้นที่ มีฝนปรอยเป็น background
วันนี้สวนผักคอรัสลองมาซ้อมในพื้นที่กึ่ง outdoor เป็นครั้งแรกที่หน้าห้องพยาบาล  โดยมีเด็กๆ ชั้น 7 ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของสมาชิกวงช่วยกันจัดการพื้นที่ ยกบอร์ด และเก้าอี้มาจากห้องเรียน ผู้ชมประกอบด้วยผู้ปกครองกับน้องประถมตัวน้อยๆ ที่จองที่นั่งตรงระเบียงห้องพยาบาลเพื่อดูครูกอล์ฟ คอรัส มาสเตอร์ เล่นเปียโนกำกับวงอย่างสบายๆ

วันนี้เห็นความแตกต่างไปจากเมื่อ 3 เดือนก่อนคือ  เด็กๆ อ่านสัญญาณของครูกอล์ฟได้ไม่หลุด  จับจังหวะได้แม่นขึ้นมาก  ฟังเสียงคนอื่นร้อง Ensemble ได้ดี  ตอนที่ต้องปรบมือประกอบจังหวะก็ทำได้พร้อมเพรียง มองกันเอง และมีพลังมากขึ้น  กล้าร้องด้วยเสียงที่ดังขึ้น

เป้าหมายของการเข้าวงดนตรี  ไม่ใช่เพื่อให้เด็กเป็นนักร้องนักดนตรี  แต่นี่เป็นเครื่องมือที่นุ่มนวลที่สุดในการฝึกนิสัยที่สำคัญมากสำหรับการเติบโตต่อไปในอนาคต

เมื่อปีที่แล้ว  เด็กที่มาขึ้นชั้น 7 มีชื่อเสียงโด่งดังในความเป็นตัวของตัวเอง ไม่นิ่งมากๆ แถมยังขี้อ้อน ... "ไม่เอาได้ไหม ไม่ไหวแล้ว ไม่สบาย" แต่เมื่อเข้าวงคอรัสได้ไม่นาน ก็เริ่มนิ่งขึ้น กำกับตัวเองได้มากขึ้น  ทำงานกับคนอื่นเป็นเพราะรู้จักที่จะฟัง

จับจังหวะแน่นเปรี๊ยะ ไม่มีหลุดเลย ดูแฟนตัวน้อยๆ จากฝั่งประถม
จอมซนคนหนึ่งบอกว่า  "ตอนแรกก็ไม่ชอบ แต่รู้ว่ายังไงเราก็ต้องฝึกทำสิ่งที่ไม่ชอบบ้าง  ก็ทำใจ  พอออกแสดงแล้วทำได้ ก็ภูมิใจมากครับ"  ประโยคอย่างนี้ ทำให้เห็นคุณประโยชน์ของคอรัสอย่างมหาศาลจึงได้จัดให้ดนตรีเป็นกิจกรรมหนึ่งที่เด็กชั้น 7 ทุกคนต้องทำ  โดยเลือกได้ว่า จะเล่นดนตรีกับวงออเคสตร้า Plearn Philharmonic Orchestra  หรือถ้าไม่เล่นดนตรี ก็ต้องเข้าวงสวนผักคอรัสที่ไปทำ surprise ซึ่งเปิดตัวอย่างอลังการที่ลานนาฬิกาแดดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ในชีิวิตจริง  เราไม่มีทางเลือกมากมายเสมอไป  บางครั้ง เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรับภารกิจที่ไม่ชอบ ไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องทำ ทางเลือกจึงเหลือเพียงว่า จะทำมันอย่างมีความทุกข์ ความคับแค้นใจ ความเก็บกด  หรือจะหาความสุขจากสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำ สามารถมองหาด้านดี  ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือมองมันเป็นความท้าทาย แล้วสนุกกับโจทย์ของตัวเอง  

จะทำอย่างไร เมื่อลูกพากเพียรทำงานอย่างหนักเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย  แล้ววันหนึ่งบอกว่า ขอย้ายมหาวิทยาลัยเพราะไม่ชอบรับน้องหนัก ปีต่อมาก็ย้ายออกจากมหาวิทยาลัยที่สองเพราะไม่ชอบที่ต้องเรียนหนัก  อีกปีหนึ่งก็ย้ายออกจากมหาวิทยาลัยที่สาม เพราะห้องแลปไม่ดี ถัดมาอีกปีขอย้ายไปเรียนเมืองนอกเพราะเมืองไทยอากาศร้อน ... หรือลูกเราจะเป็นเจ้าของกิจการที่บอกลูกค้าว่า  ขอโทษทีนะ วันนี้ยังไม่ส่งงานตามนัด เพราะไม่อยากทำอ้ะ เอาไว้มีอารมณ์อยากทำเมื่อไหร่จะรีบส่งงานให้

คุณสมบัติหนึ่งของเด็กเพลินฯ ที่ต้องช่วยกันสร้างคือ เมื่อได้รับภาระหน้าที่ที่แม้ไม่อยากทำ  เด็กของเราจะมองหาด้านดีของงานนี้ได้   ถ้าไม่ฝึกวันนี้กับเครื่องมือที่นุ่มนวลที่สุดคือ ดนตรี ในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด คือโรงเรียนเพลินฯ  ... แล้วจะรอไปฝึกอย่างเจ็บปวดเมื่อไหร่ กับใคร?!  ขอบคุณทั้งคุณครูและคุณพ่อคุณแม่นักร้องเสียงเบส และเสียงหวานทั้งหลายที่นั่งอยู่ข้างหลังเป็นกำลังสำคัญในการฝึกลูกๆ ค่ะ

No comments:

Post a Comment