ใบความรู้ที่ ๒ การอ่านหารายละเอียด
การอ่านหารายละเอียด
ในการอ่านโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร
วารสาร ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหรือสื่อต่างๆที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ
การถามตัวเองว่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องอะไร (Topic) มีสาระสำคัญอะไรบ้าง (Main
Idea) และหากสนใจในเรื่องก็ต้องอ่านต่อ ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียด (Details)
และมีประโยชน์หลายประการ
คือ
๑. เข้าใจรายละเอียด จะช่วยให้นักเรียนได้เข้าใจสาระสำคัญของเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
๒. ความเข้าใจจะทำให้ความสามารถในการอ่านข้อความง่ายขึ้น
๓. รายละเอียดจะช่วยให้มองว่ารูปแบบที่ผู้เขียนนำเสนอว่าเป็นอย่างไร
รูปแบบใด ซึ่งได้แก่ การลำดับเหตุการณ์ เป็นเหตุเป็นผลกัน และเป็นขั้นตอน เป็นต้น
๔. สิ่งสำคัญ คือ ข้อสอบที่ถามมักถามเกี่ยวกับรายละเอียดเป็นส่วนใหญ่
และหากเข้าใจในรายละเอียดก็จะทำให้สามารถทำคะแนนในการสอบได้ดี!!!
จะเห็นได้ว่า
การเข้าใจในรายละเอียดของสิ่งที่อ่านเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
และจำเป็นที่นักเรียนจะต้องฝึกฝนเพื่อให้เกิดทักษะ ในเรื่องของการแสกนนิง ซึ่งคือ
การหารายละเอียดของเรื่องนั่นเอง
การอ่านหารายละเอียด
ได้แก่ การอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเพื่อหาคำตอบที่ต้องการ
โดยที่นักเรียนจะค้นหาคำตอบตามที่ตนเองสงสัย
และสนใจคำหรือกลุ่มคำที่จะช่วยให้ตอบคำถามนั้นได้ โดยที่นักเรียนอาจละเลยข้อความที่เกี่ยวข้อง
เมื่อนักเรียนพบคำตอบที่ถูกต้องแล้วก็จะอ่านอย่างถี่ถ้วนระมัดระวังเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง
ในการอ่านเพื่อหารายละเอียด (Scanning) สิ่งที่ควรคำนึงถึง ได้แก่
ไม่จำเป็นต้องรู้หรือเข้าใจความหมายของศัพท์ทุกคำเพราะเราต้องการแค่ข้อมูลบางอย่างเท่านั้นมิใช่ทั้งหมด
หกเราพบสิ่งที่ต้องการแล้วก็ถือว่าการใช้เทคนิคนี้ประสบผลสำเร็จตามที่คาด
ส่วนมากเรามักจะใช้กลวิธีนี้เมื่อต้องการหาคำตอบที่ต้องการโดยมุ่งไปสิ่งที่สงสัย
ซึ่งโดยทั่วไปเรามักจะแสกนสิ่งที่ต้องการในชีวิตประจำวัน เช่น
การหาตารางรายการทีวี หาหมายเลขโทรศัพท์ อ่านโฆษณาในหนังสือหรือสื่อต่างๆ
อ่านไปรษณียบัตร การหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ขั้นตอนในการอ่านแบบหารายละเอียด (Scanning) มีดังต่อไปนี้
๑. ไม่ต้องพยายามที่จะอ่านคำศัพท์ที่พบทุกคำ
๒. กระโดดข้ามบางคำที่ไม่จำเป็น
๓. ใช้ Key word and Phrases (คำหรือกลุ่มคำที่สำคัญ)
ในโจทย์หรือที่กำหนดในการหาข้อมูล
No comments:
Post a Comment